Review INTERN ริมโขง - Review INTERN ริมโขง นิยาย Review INTERN ริมโขง : Dek-D.com - Writer

    Review INTERN ริมโขง

    บันทึกประสบการณ์หลังเรียนจบปีแรก 2565

    ผู้เข้าชมรวม

    78

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    78

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 พ.ค. 66 / 21:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    บันทึกประสบการณ์ทำงานหลังเรียนจบใหม่ =.,=

     

    จะได้ไปทำงานแล้วววววว

    Goal : ใช้ชีวิต slow life ในรพช. พร้อมเลี้ยงมะหมา 1 ตัว มีพื้นที่พาไปวิ่งเล่น หางานอดิเรกทำระหว่างทำงานไปด้วย เช่น เรียนภาษาจีน/ญี่ปุ่น (อยากไปเที่ยว+อ่านนิยายแปลได้) อัพสกิลวาดภาพที่ห่างหายไปนาน ฝึก Digital paint แต่งนิยาย เล่นเซิร์ฟออกกำลังเป็นบางเวลา <<< ไม่มีความคิดเรียนต่อเล้ยยย 555

    ความรู้สึกตอนนั้นคือ ตื่นเต้นมากกก (ด้วยความยังไม่รู้ด้วยแหละว่าตัวเองจะได้ไปใช้ทุนที่ไหน 555) 

    แถมจบช้ากว่าชาวบ้านเค้าตั้ง 2 เดือน ตัวเลือกในภาคอีสานเลยเหลือแค่ 3 จังหวัด เศร้า

    และแล้วก็…

    ..

    .

    ติ๊ง!

    จบที่จังหวัดแห่งนึงที่มีพญานาคริมโขง =.,=

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      First impression : ลงจากรถ เหยียบรพ.ครั้งแรกคือ โอ้ ดูเป็นรพ.ที่เงียบๆดีเนอะ ((( ‘ ’) 

      อืมม… พ่อแม่ขับรถมาส่ง ด้วยความที่ที่พักอยู่ในรพ. และของคือปริมาณย้ายบ้าน (ตอนนั้นวันหยุด) ไม่รู้ด้วยว่าถ้ามาในวันธรรมดาเขาจะมีรถเข็นให้ยืมมาย้าย คือช่วยกันลากลังไปขึ้นห้อง เขินอายเหล่าญาติๆทั้งหลายที่เดินผ่านไปมามากก ก็ว่าพยายามเอาทรัพย์สมบัติพัสถานมาน้อยแล้วนะ แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี TT-TT 

      **ไม่รวมที่ระหว่างทางรถพ่อยางแตก กว่าหาที่เปลี่ยนยางจนมาถึงจุดหมายนี่ใช้เวลาเดินทางเกือบ 4 ชั่วโมง เหนื่อยมากกกกกก

      ห้องพักที่เขาจัดให้คือห้องพิเศษเก่าของคนไข้ในรพ. ทั้งชั้นจะจัดเป็นที่พักของบุคคลากรเท่านั้น มีห้องน้ำในตัว แอร์ให้ เดือนแรกเขายังจัดห้องพัก Intern ให้ไม่ลงตัว เลยได้ไปอยู่ชั้นที่มีแต่ Staff เหงาสุดๆ

      แบบ ตัวคนเดียว ในเมืองที่ไม่คุ้นทาง คนรู้จักก็ไม่มี มันโหวงเหวงแปลกๆง่ะ

      ดีที่พี่พยบ. + เพื่อน Intern ก็ทักทายกัน ช่วยสอนงาน ระบบเป็นยังไง ทำยังไง เราทำอะไรพลาดเขาก็จะทักให้ ได้แก้ไข ปรับตัวไปเรื่อยๆ จนไปบ่นกับเพื่อนว่าเหงา ไม่รู้จักที่ไหนเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าไปกินข้าวไหนดี ถ้าเพื่อนไปกินไหนกันช่วยลากเราไปด้วยนะ ย้ำว่าลาก 555 ใครไปไหนขอไปด้วยหมด ให้เพื่อนหิ้วไป 555 ต้องบอกว่าเพื่อนดีมากจริงๆ ทุกคนเฟรนลี่มากๆ เลยรอดมาได้

      ER ที่นี่ไม่มี Staff มีแค่ Intern สองหัวนั่นโด่เด่อยู่ ไม่มั่นใจอะไรก็มองตากัน โทรคอนซัลเป็นว่าเล่น ตอนนั้นจะอยู่เวร ER ทีนึงคือ เหมือนตัวเองกำลังจะเดินลงสนามรบ กำลังจะมีสงครามตลอด 555 อยู่รร.แพทย์ไม่เคยต้องตัดสินใจอะไรเองที่ส่งผลต่อชีวิตคนมาก่อน ออเดอร์ทุกอย่างจะมีพี่เด้นกับอจ.คอยตรวจก่อนส่งเสมอ ไม่เคยใส่ทื้วด้วยซ้ำ มาที่นี่คือ survival สุดๆ ใส่บ่อยจนเริ่มใส่ได้ T^T

      แล้วๆ ตอนอยู่รร.แพทย์ ที่นั่นมียา อุปกรณ์อะไรเยอะกว่ามาก เคยแต่ราวน์วอร์ด ไม่เคยผ่าน ER จริงๆ (มีแต่คลาสเลคเช่อ) แลปบางตัวที่นี่ส่งไม่ได้ กว่าผลจะออกเกือบชม. บางอันออกเฉพาะวันพฤหัสกับอังคารไรงี้ บางอันไม่มีด้วยซ้ำ

      คำพูดติดปากตอนนั้นของพี่พยบ.เวลาถามว่าอันนี้มีมั้ยนะคะ อันนี้ล่ะ คือ รพ.เราจนมากน้องหมอ T-T…

      หลังๆมาก็ อ่ะนะ มีน้อย คิดน้อยดี ตัวเลือกให้ส่งไม่เยอะ 555

      ระหว่างนั้นมีวันนึง ไข้ขึ้น+ไอ ก็ตะหงิดนะว่าติดโควิดป่าววะ แต่คือวันต่อมามีเวรเช้า จะแลกเวร stat ก็ยาก เลยกินยาลดไข้ นอนพักเยอะๆ วันต่อมาไปเข้าเวร ER ทั้งที่ยังมีไข้ ฝืนทำงานไปได้ครึ่งวัน พี่พยบ.เดินมาจับคอ บอกหมอตัวร้อนมากเลย ตรวจโควิดยัง ตอนนี้ยังไม่ค่อยยุ่ง ไปพักหน่อยมั้ย หลังจากนั้นอาจารย์ก็มาดู+ให้ตรวจโควิด stat 

      ปรากฎว่าไม่ถึงสิบนาที เพื่อนโทรเข้ามาบอกว่าแกpos. โดน off 5 วัน T3T

      มันลำบากตรงที่บ้านอยู่ไกล จะขับรถกลับบ้าน 3-4 ชั่วโมงก็ไม่ไหวแน่ๆ ตอนนั้นคือเหนื่อยเพลีย ไข้สูง หนาวมาก ให้พ่อแม่มารับมันก็ไม่ใช่การกักตัว เลยกักตัวในห้องพัก เพื่อนก็ถามแล้วแกจะกินอะไร แต่คือมปร.ในห้องมีมาม่ากับไข่ไก่ตุนไว้อยู่ ปกติซื้อตุนไว้อยู่แล้ว 5 วันน่าจะอยู่ถึง เพื่อนก็ใจดีถามเอาอะไรมั้ย ฝากซื้อมั้ย เอามาส่งให้หน้าห้อง งืออ

      แล้วก็ผ่านช่วงโควิคมา กลับมาแข็งแรงทำงานต่อ แฮะๆ

      วนต่อไป เด็ก - เดือนที่สอง อาจารย์ก็ใจดี ออก activity ไม่ยุ่งมาก ตอนออกตรวจกับอาจารย์คือได้อาวุธยาต่างๆที่ใช้ในเด็กเยอะมาก อจ.นั่งอธิบายหนังสือยาเด็กอ่ะ ว่าอันนี้ใช้ยังไง รพ.เรามีตัวไหนบ้าง ทำให้เราเอาไปใช้เอาตัวรอด at ER ได้ 555 มีตื่นเต้นใจหวิวๆตอนโดนตามรับเด็กบ่อยๆ (กลัวเด็กตัวน้อยได้ใส่ท่อ) แต่ก็ดวงยังไม่เจอ

      ช่วงเบื่อๆก็ไปเล่นเซิร์ฟริมโขง ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้ออกกำลังกายเปลี่ยนบรรยากาศดี

      สูติ - ผ่านห้องคลอดก่อนไม่มีไรมาก เน้น u/s หา GA + ฝากครรภ์ แล้วก็ราวน์สูติบน อันนี้คือปวดหัว เพราะอจ.มีเกือบ 6 คน แต่ต้องราวน์ทุกเคส เดาใจจารย์บ่ถูกเด้ แถมโรคสูติมัน…เอาเป็นว่า มันคือโลกมืดละกัน T-T ไม่ค่อยชอบการ PV PAP อะไรเทือกนั้นเท่าไหร่ มีได้ฝังยาคุมกับทำหมันบ้าง ยากตรงหาทิ้วหมันไม่เจอ จบที่พี่พยบ.ช่วย แหะๆ

      เมด - ทำใจก่อนขึ้นละนะ แต่ว่า… ช่วงอยู่เด็ก&สูติคือ ตอนอยู่เวร ER เค้าจะมี call for help ผ่านไลน์ กรณีตรวจไม่ทัน ต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนอื่นที่ไม่อยู่เวรมาช่วยตรวจ พอขึ้นเมดเท่านั้นแหละ ใจออกจ้า ไม่ได้โผล่หน้าไปช่วยเพื่อนเลย หายเงียบ

      ว่างเป็นหลับ ขยับเป็นราวน์

      ได้อยู่กับอจ.ที่เคสเยอะมาก ละคือ ตื่นมาราวน์ 6.00-6.30 กว่าจะราวน์เสร็จก็เกือบเที่ยง จัดการ ww ของตัวเองในสายไปด้วย แต่ถ้าวันไหนต้องไปอยู่เวร ER เช้า ช่วงเคสเยอะมากคือต้องตื่นเกือบตีห้าเพื่อราวน์ให้ทันก่อน 8.00น ไปเข้าเวร ER ถ้าไม่ทันจริงๆคือบอกอจ.ไว้ ยังมีอจ.ราวน์ แต่ถ้าช่วงอจ.ลาหยุดนี่… TT_TT คิดภาพออกมะ อันไหนด่วนคือต้องจัดการให้เสร็จ ไม่ด่วยค่อยมาต่อเย็นหลังลงเวร ER เพราะถ้าไม่ราวน์ก็จะไม่มีใครราวน์แล้วแม่ แง

      เป็นหลุมมืดใหญ่ๆที่ราวน์ไป น้ำตาจะไหลไป กองชาร์ทท่วมหัว ซึมเศร้ามาก วันไหนไม่อยู่เวร ปกติไปเล่นเซิร์ฟ แต่ช่วงนั้นคือหมดแรงเล่น เน้นไปนั่งโง่ๆริมโขงมากกว่า ฮรืออ

      งานภายในยุ่งเพราะตอนนั้นมีขึ้นกัน 4 คน แบ่งคนนึงเวร ER อีกสามมี ww รับโนติภายใน ออก opd กับ opd special แล้วปัญหาคือ แต่ละคนมีหน้าที่ของตัวเอง ตอนวันที่ opd เคสเยอะแตะหลัก 100 ขอคนไปช่วย มันไปช่วยไม่ได้ไง คนออก opd ก็ต้องราวน์ของตัวเองให้เสร็จก่อน 9.00 แค่งานตัวเองก็หัวหมุนแล้ว จะไปช่วยกันยังไง

      ตอนวนแต่ละอัน ระหว่างนั้นก็ต้องขึ้นเวร ER CPR Forensic กับเวร ward ไปด้วย ไม่ได้มีแค่เมดอย่างเดียวเด้

      แถมด้วยการอัพเกรดสกิล เปิดเส้นฟอกไตเป็น พอวอร์ดไหนรู้เขาก็จะตามเราไปเปิดเส้นให้บ่อยๆเพราะเวรวันนั้นเปิดเส้นไม่เป็นก็มี ไม่รู้ควรเศร้าหรือภูมิใจดี

      ปกติเค้าจะให้ลา week off ได้ เสาร์อาทิตย์นึงที่ไม่มีเวรต่อเดือน ให้สองวันคือไม่ต้องมาราวน์เลยได้ แต่ตอนเราอยู่เมด สองเดือนแรกไม่ได้ week off เลยซักวัน เพราะเดือนแรกว่ามีช่วงไปรับปริญญาแล้วถือว่าหยุด เดือนสองอจ.ลาไปเรียน จะฝากเพื่อนราวน์ก็เกรงใจ เลยอยู่ราวน์เองเสร็จเกือบบ่าย

      เดือนสาม ไม่ไหว สภาพจิตใจไม่ได้พัก โทรศัพท์ดังทีคือใจสั่นว่าเขาจะโนติอะไร ขอ week off อจ. 2 วัน อจ.ดันบอกว่า พี่ว่าน้องยังไม่ได้ความรู้อะไรเท่าไหร่ สู้เอาเวลาพัก 2 วันมาราวน์ให้ได้ความรู้ดีกว่านะ (อจ.คนนี้วนด้วย 10 วัน) อจ.ให้เวลาคิดใหม่ก่อนยื่นใบลา พร้อมขู่ว่าอาจมีโอกาสได้ add ถ้าลา

      วันต่อมา ก็ยื่นใบลาอยู่ดี T^T ไม่ไหว หนูอัดอั้นตันใจจริงๆค่ะอจ. ถึงขั้นคิดเลยว่า add ก็ add วะ แต่ขอออกจากตรงนี้ก่อน ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว การต้องตื่นมาราวน์ทุกวันแต่เช้าแถมรับโนติตลอดมันเครียด ขอสองวันอยู่เฉยๆปิดโทรศัพท์ไม่ต้องทำอะไรทีเถอะ

      แล้วก็ได้นอนสองวัน เหมือนได้ชาร์ตแบต มีแรงใจมาฮึดต่อ

      หลุดจากหลุมเมดก็มาหลุมศัลย์

      ตอนแรกคิดว่าเป็นหลุม เพราะเสียงอจ.ตอนคอนซัลดุมาก แต่พอขึ้นจริงก็ไม่ได้เป็นหลุมแฮะ แค่ตื่นเช้ามากเอ้งง

      อันนี้อจ.ราวน์เช้ามาก 7.30 เราต้องตื่นมาราวน์ให้เสร็จก่อนอจ. เคสมาเร็วเคลมเร็ว เลยไม่กองท่วมหัวเท่าไหร่ แถมไม่ได้หนัก+โนติบ่อยเท่าเมด เข้า OR อจ.ก็คุยเล่นไปผ่าไป สนุกดี ยกเว้น colono.+EGD ก็ยังไม่ค่อยชอบอยู่ดี 555

      2 เดือน ได้อยู่กับคุณพ่อ 2 คน คนนึงเฮลตี้ คุยเก่ง เมาท์เก่ง ดวงมีแต่เคสยากๆ อุแง อีกคนเงียบๆแต่ผ่าชำนาญมาก เคสยากไม่เยอะ เดินเร็วราวน์เร็วจนเกือบเบรกไม่ทันวิ่งชนอจ. แค่กๆ!

      จบที่ส่วนสุดท้าย ออโถ อันนี้ได้อยู่ 1 เดือน อยู่กับคุณพ่ออีกคนนึง อจ.ให้งบกินน้ำวันละแก้วเดือนนึง เดินไปสั่งร้านเลย บอกลงบัญชีอจ.ไว้ สอนดีมากกก ทำให้คิดว่าออโถไม่ได้ยากอย่างที่คิด แถมเพิ่มความสนใจ ทำให้อยากเรียนออโถขึ้นมา 555 (ตอนแรกสนใจเด็ก เพราะค่อนข้างชอบเด็ก ตะเล็กตะน้อย แต่หลังๆเริ่มคิดใหม่เพราะขี้เกียจอธิบายกับพ่อแม่ เจอพ่อแม่เข้าใจง่ายก็ดีไป พอเจอคนแบบ ลูกฉันป่วยมีไข้ ต้องนอนรพ. ทำไมไม่ฉีดยา บลาๆ อันนี้คือฮื่ม! หนหวย แถมพวกเด็กโดนพ่อแม่ตามใจคือไม่น่ารักเลย ถามอะไรแบะหน้าใส่ ไม่หือไม่อือไม่ตอบ กรี๊ดไม่พอใจอย่างเดียว)

      เออะ กลับมาที่ออโถ พอบอกจารย์ว่าสนใจเท่านั้นแหละ จารย์ลองใจ เริ่มให้ตอกตะปูดามเหล็กขา ทำนู่นนี่ ใช้แรงเยอะจนมือสั่น แต่สนุกดี ไม่ได้รู้สึกท้อหรือเหนื่อยอะไร ขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกก่อนตัดสินใจ 555

      ใช้ทุนปี 2…

      อยากทำงานที่ใกล้บ้านหน่อยเพราะแทบไม่ได้กลับบ้านเลย จะขับรถกลับเอง 3 ชม.พ่อแม่ก็เป็นห่วงจะขับมารับทุกที ลงเอยที่ไม่ค่อยได้กลับ เกือบ 4 เดือนกลับทีนึงมากสุด 3 วันแบบไม่เต็ม

      แต่ว่าก็โดนบังคับเลือกที่ลงเรียบร้อยเพราะมีรพ.เค้าขาดคน ต้องการคน เห็นเค้าว่าที่นั่นงานหนักอยู่ ก็…เลือกไม่ได้อยู่ดี ค่อยไปดูที่นู่นอีกทีละกัน (_ _)^^^

       

      …Intern ตัวน้อยคนนึง

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×